“ไม่มีความสัตย์ในวงการธุรกิจหรอกนะจินยอง เหมือนที่พ่อนายทำกับพ่อฉันไง” เข็มกลัดสีทองบนปกเสื้อถูกดึงออกไปวางที่โต๊ะข้างเตียงก่อนนิ้วเรียวยาวจะบรรจงปลดกระดุมเสื้อของร่างบางอย่างเย็นใจ ใบหน้าหวานที่ยังคงมีสติครบอยู่ทุกอย่างขาดแต่เรี่ยวแรงในการต่อต้าน แค่คิดจะควบคุมร่างกายให้เป็นไปอย่างใจยังยากเลย
“พ่อฉันไปทำอะไร?” เสื้อเชิ้ตของคนตัวบางถูกถอดออก
แจบอมดันตัวจินยองให้นอนราบไปกับเตียงนุ่มก่อนจะรวบมือเล็กทั้งสองข้างขึ้นไปไพล่ไว้เหนือศีรษะเพื่อไม่ให้ขัดขืน
ริมฝีปากหนาบรรจงจูบตามเนินอกบางจูบไล้ไปตามไหล่เล็กอย่างหลงใหล
“หยุด...อือ อย่า” ความนุ่มนวลของริมฝีปากทำให้จินยองรู้สึกแปลกออกไปทั้งที่น้ำเสียงและคำพูดของแจบอมน่าจะเป็นความแค้นที่รอการสะสางแต่ทำไมท่าทีที่แจบอมปฏิบัติกับตัวเขามันถึงได้อ่อนโยนเหมือนกับ...
“ทำไมฉันถึงคิดถึงแต่นายนะจินยอง”
ใบหน้าหล่อนั่นเงยขึ้นมาสบกับนัยน์ตาคู่สวยของจินยองที่เต็มไปด้วยความสงสัย มือหนาคลายข้อมือของจินยองออกให้เป็นอิสระก่อนจะโน้มหน้าไปใกล้ใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์ยา
“พ่อ...พ่อฉันอยู่ที่ไหน?” จินยองบีบแขนแจบอมให้ตอบคำถามของเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่พ่อของจินยองไม่ได้ติดต่อกลับมาหาเขาเลย สิ่งที่ทำให้เขารับรู้ว่าพ่อยังมีชีวิตอยู่คือยอดเงินที่ถูกถอนออกจากบัญชีเป็นจำนวนมากตั้งแต่ตอนต้นปี
“อยู่ในที่ที่เขาควรจะอยู่” คำตอบกำกวมจากแจบอมยิ่งทำให้จินยองสงสัยมากขึ้นเป็นเท่าตัวแต่ยังไม่ทันจะเอ่ยปากถามอะไรต่อ
ริมฝีปากหนาก็ประกบจูบลงมาราวกับไม่อยากให้เขาเอ่ยถึงอีกเป็นครั้งที่สอง ลิ้นร้อนที่สอดแทรกมาในโพรงปากทำให้ความคิดทุกอย่างของเขาหยุดลงแค่เพียงเท่านั้น
เรียวลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดตักตวงความหอมหวานของกันและกันอย่างโหยหา
มือหนาลูบไล้ไปตามผิวเนื้อเนียนนุ่มของคนใต้ร่างเพื่อสัมผัสทุกสัดส่วนที่เคยเป็นของเขา
นิ้วมือหนาสะกิดตุ่มไตเล็กที่ชูชันขึ้นมาหยอกล้อกับมือของเขา
ไม่ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาหรือแรงปรารถนาแต่สิ่งที่จินยองปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือความรู้สึกของเขา...ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
ความรู้สึกนี้ก็ยังคงเป็นของอิมแจบอม
“อย่า...แจบอม” มือเล็กเอื้อมมากุมมือคนตัวโตกว่าที่จับอยู่ที่ขอบกางเกงของเขาหมายจะถอดมันออก
แต่จินยองรู้ดีว่าหากมันเลยเถิดมากไปกว่านี้...เขาจะเสียการควบคุม
“ให้ฉันช่วยเถอะ นายไม่ไหวหรอก” ริมฝีปากหนาจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากบางก่อนจะจัดการถอดกางเกงผ้าเนื้อดีของคนตัวเล็กใต้ร่างออกอย่างทะนุถนอม
ส่วนอ่อนไหวที่ชูชันขึ้นมาถูกลูบไล้ด้วยนิ้วมือเรียวอย่างนุ่มนวล
ความอ่อนโยนของผู้ชายคนนี้ยังคงเสมอต้นเสมอปลายแต่ก็คงความร้อนแรงไว้ด้วยเช่นกัน
“อือ อย่า...ไม่...ไม่เอา” ขาเรียวหุบเข้าหากันแม้ว่าอุณหภูมิร่างกายของเขาตอนนี้แทบจะต่อต้านใดๆไม่ได้อีกแล้ว
แต่บาดแผลในใจและความรู้สึกเจ็บปวดจากเหตุการณ์ในอดีตทำให้เขาต้องฝืนเพื่อปกป้องหัวใจของตัวเองไม่ให้เผลอไผลไปกับคนใจร้ายคนนี้อีกแล้ว
“ออกไป...” มือเรียวดึงผ้าห่มมาคลุมกายเอาไว้พลางเอ่ยปากไล่ออกมาด้วยคำพูดที่ชัดถ้อยชัดคำ
ใบหน้าหวานซบลงกับหมอนใบใหญ่เพื่อผ่อนคลายอารมณ์จากฤทธิ์ยา
“ดื้อเหมือนเดิม” เรียวปากหยักยกยิ้มก่อนจะเลื่อนตัวขึ้นไปคร่อมร่างจินยอง
ใบหน้าน่ารักเบี่ยงหนีไปอีกทางแต่เพราะระยะห่างของเขาทั้งคู่มีน้อยมาก
แจบอมจึงถือโอกาสไล้จมูกเข้ากับผิวแก้มเนียนนุ่มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ จินยองหันกลับมาหมายจะเอ่ยห้ามปรามแต่เจ้าของริมฝีปากหยักกลับทาบทับลงไปบนเรียวปากบางเสียก่อนจนไม่มีโอกาสแม้แต่จะหลุดคำพูดใดออกมา
ผ้าห่มถูกดึงออกไปแบบไม่ทันให้จินยองได้ตั้งตัว มือหนาลูบไล้เรียวขาสวยก่อนจะกอบกุมส่วนอ่อนไหวที่เริ่มจะปริ่มน้ำออกมาหน่อยๆเพราะยังไม่ได้รับการปลดปล่อยเลยสักครั้ง
นับว่าอึดมากสำหรับผู้ที่โดนยาปลุกเซ็กส์ชนิดนี้เข้าไปแล้วฝืนทนมาได้ขนาดนี้ ริมฝีปากหนาผละออกให้จินยองได้พักหายใจเพียงครู่เดียวก่อนจะประกบจูบลงไปอีกคราเพราะถ้าจะปราบคนพยศอย่างจินยองหากไม่เบี่ยงเบนความสนใจให้ดีแล้วล่ะก็ไม่มีทางที่เขาจะหาโอกาสเหมาะสมได้อีกเลย
ดีไม่ดี...นี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายของเขาแล้วก็ได้
“อื้อ อือ...” เสียงหลุดครางจากริมฝีปากเล็กเพราะมือหนาที่รูดขึ้นลงเป็นจังหวะกำลังทำให้เขารู้สึกไม่เป็นตัวเอง
กลิ่นกายเย้ายวนทำให้แจบอมต้องละริมฝีปากออกแล้วหันไปให้ความสนใจกับแผ่นอกบางตรงหน้า
เรียวลิ้นร้อนตวัดลงบนยอดอกเชิงเย้าแหย่แต่ก็คงทำให้จินยองรู้สึกดีไม่น้อย
ร่างสูงจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกไปให้พ้นทางแล้วทาบทับกายเข้ากับผิวเนียนนุ่มของจินยอง
ริมฝีปากร้อนไล่ตีตราประทับรอยกลีบกุหลาบลงบนผิวขาวๆของจินยองอย่างอ้อยอิ่งและไม่ได้สนใจเสียงห้ามปรามของจินยองที่ไม่ชอบให้ใครทำรอยเลยสักนิด
“อืม ไม่...” นิ้วเรียวยาวลากไล้วนไปที่ช่องทางสีหวานด้านล่างแต่มือเล็กกลับเอื้อมมาขัดจังหวะ
แจบอมช้อนสายตามองคนร่างบางที่เขาเข้าใจว่าถูกปลุกปั่นอารมณ์จนมาถึงขนาดนี้แล้วไม่น่าจะขัดข้องอะไรได้อีกอย่างสงสัย
แต่รอยยิ้มบนเรียวปากบางนั่นกลับเป็นฝ่ายพูดคำที่ทำให้เขาหัวใจเต้นผิดจังหวะขึ้นมาก่อน
“ไม่เอานี่สิ...นายมีดีแค่นี้รึไงอิมแจบอม” มือเล็กเลื่อนลงมาแตะสัมผัสลงบนแกนกายของเขาอย่างสื่อความหมาย
นัยน์ตามีเสน่ห์ร้อนแรงจนเขารู้สึกเหมือนกับโดนท้าทาย นี่ฤทธิ์ยาหรือตัวตนที่แท้จริงของปาร์คจินยองกันแน่
“ถ้าเจ็บตัวจะมาโทษฉันไม่ได้นะ” ริมฝีปากบางยกยิ้มให้คนตัวสูงกว่า
สายตายั่วยวนของจินยองมีอิทธิพลต่ออัตราการเต้นของหัวใจของเขามาก ไม่ใช่เพราะความเสน่หาแต่เพราะเป็นจินยองต่างหาก...
“ถ่านไฟเก่าธรรมดา จะหลอมเหลวทองคำได้สักเท่าไรกันเชียว”
คำพูดกึ่งเยาะเย้ยของจินยองเรียกรอยยิ้มที่ไม่เคยห่างหายไปจากใบหน้าหล่อให้แย้มยิ้มกว้างกว่าเดิม
คนตัวสูงเลื่อนแกนกายไปจ่อเข้าที่ช่องทางสีหวานก่อนจะกดแทรกมันลงไปอย่างเชื่องช้า
“อึก...” จินยองเบ้หน้าเพราะความเจ็บที่แล่นริ้วผ่านขึ้นมา
ริมฝีปากสีแดงเม้มแน่นเข้าหากันเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ไม่ให้ไหวตามคนคุมเกมอย่างอิมแจบอม
“หลอมได้เท่าไรฉันไม่รู้ แต่ไฟที่คุขึ้นมาแล้ว...ถ้าจะให้มอดลงคงยากหน่อยนะ”
ทั้งสองคนประสานสายตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
หนึ่งคนก็ไม่เคยยอมโอนอ่อนผ่อนตามใคร อีกหนึ่งคนก็ไม่ยอมศิโรราบให้อคติที่บดบังตา
“อา...ที่ฉันเคยถามว่าทำไมนายถึงเกลียดความรัก...”
จังหวะรักของคนทั้งสองเป็นไปอย่างเชื่องช้าแต่อ่อนหวาน
แม้คำพูดและสายตาที่ทั้งคู่จะพูดข่มกันไปมาแต่ทว่าการตอบสนองของร่างกายนั้นช่างอ่อนโยนเหลือเกินเหมือนกับการรำลึกถึงอดีตของกันและกันเมื่อครั้งก่อน
“เพราะครอบครัวของฉันมันเหลวแหลก...ฉันเคยตอบนายไปล..แล้ว”
จินยองเผลอยกมือขึ้นโอบกอดรอบคอคนตัวสูงกว่าที่ทำหน้าที่อยู่บนร่างกายของเขาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
“มันทำให้ฉันอยากขอโทษ...อา...จินยอง” ร่างบางใต้ร่างเป็นฝ่ายพลิกตัวขึ้นมาอยู่ด้านบน
ขาเรียวที่เกาะเกี่ยวรอบเอวผลักคนตัวสูงกว่าให้นอนราบไปกับเตียงเพื่อตัวเองจะได้เป็นฝ่ายคุมเกมบ้าง
“ฉันไม่รับคำขอโทษจากศัตรู” สะโพกเล็กยกขึ้นและกดลงมาอย่างรวดเร็ว
ความเหนือชั้นของจินยองทำให้แจบอมเผลอซี๊ดปากออกมาเบาๆก่อนมือหนาจะโน้มคอคนตัวบางลงมารับจูบเพียงชั่วครู่แล้วปล่อยไปทำหน้าที่ต่อ
“ฉันเกลียดความรัก...แต่เกลียดนายมากกว่า” คำพูดของคนตัวบางเรียกรอยยิ้มบางปรากฏขึ้นที่มุมปากของคนร่างสูง
ท่อนแขนแข็งแรงพลิกคนตัวบางมาไว้ใต้ร่างอีกครั้งก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
ใบหน้าหวานหอบหายใจออกมาอย่างแรงทุกครั้งที่การตอดรัดเป็นไปตามแรงอารมณ์
ท่าทีนุ่มนวลอ่อนโยนหายไปเหลือทิ้งไว้แต่เพียงความร้อนแรงทุกจังหวะการสอดใส่ มือเรียวเกาะไหล่แกร่งนั่นไว้เป็นหลักยึดเมื่อรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
“ใจเย็นสิจินยอง...นายคงได้เกลียดฉันไปอีกนานเลยล่ะ”
ริมฝีปากหนาพูดจบก็ตรงเข้าเล้าโลมบนยอดอกของคนตัวบางใต้ร่าง เสียบหอบหายใจของคนทั้งคู่สอดประสานกันจนแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร
“นายมีเวลาแค่เที่ยงคืนเท่านั้นแหละ
อา...เร็วได้แค่นี้รึไง” ร่างสูงโปร่งไม่ปล่อยให้คนตัวบางดูถูกได้อีกต่อไป สะโพกหนาขยับเร่งความเร็วโดยไม่ลืมปลอบประโลมร่างบางให้เคลิบเคลิ้มอารมณ์ตามเพราะความรู้สึกดีๆที่มีต่อกัน
สัมผัสรุนแรงแต่ไม่หยาบโลน ความร้อนแรงที่คงความอ่อนหวานเอาไว้โดยตัวแปรที่ปัญญาอ่อนที่สุดในชีวิตที่เขาเรียกมันว่าความรัก
กระแสน้ำอุ่นถูกฉีดเข้าไปในช่องทางสีหวานพร้อมกับตัวร่างบางเองที่ปลดปล่อยของเหลวสีน้ำนมออกมาจนเต็มขาเรียว
เหงื่อโทรมชโลมกายคนทั้งคู่สอดรับกับสายตาที่มองกันอย่างสื่อความหมาย
รอยยิ้มยังคงไม่เคยจางหายไปจากใบหน้าหล่อและใบหน้าหวาน ริมฝีปากหยักประกบจูบลงมาที่ริมฝีปากบางอีกครั้ง
ร่างกายของจินยองเป็นของเขามาโดยตลอด ไม่มีสัมผัสไหนเลยที่เขารู้สึกว่ามันเปลี่ยนไป
แม้ความห่างไกลจะทำให้บางอย่างแปรเปลี่ยนแต่จินยอง...ยังคงเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์มาโดยตลอด
•·.·´¯`·.·• •·.·´¯`·.·•´`·.•·.·´¯`·.·• •·.·´¯`·.·•´`·.•·.·´¯`·.·• •·.·´¯`·.·•´`·.•·.·´¯`·.·• •·.·´¯`·.·•´`·.
TBC
Makemeproud : กลับไปอ่านเรื่องทั้งหมดได้ที่ LABEL HOST
และอ่านต่อจากฉากนี้ได้ที่ LABEL HOST CHAPTER 5
ขอความกรุณาอย่าคัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใดของเนื้อหา หากพบจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
ปล.เว็บบอร์ดนี้แจ้งไอพีแอดเดรสของผู้ที่เข้าอ่าน
สำหรับแฟนฟิคที่ติดตามอ่านกันมายาวนาน การบรรยายฉากตัดของพราวอาจจะไม่ตรงใจใครๆ
พราวตั้งใจเขียนให้มันเป็นเลิฟซีนไม่ได้เขียนเซ็กส์ซีน หากภาษาที่ใช้สื่อสารยังไม่ดีพอ
พราวก็น้อมรับคำติชมจากทุกคนนะคะ
สุดท้ายนี้ขอบคุณมากๆสำหรับคอมเม้นท์ที่เป็นกำลังใจทำให้ยังแต่งต่อทั้งที่เริ่มไม่อยากแต่งแล้ว
ด้วยเหตุผลอะไรหลายๆอย่าง ขอบคุณอีกครั้งนะคะ เพราะมีคนอ่านทำให้ยังอยากแต่งต่อไป
อย่าเพิ่งทิ้งกันเน้ออออ รักนะ บิบิ